"ใบบัวบก"....มีดีกว่าแก้ช้ำใน
ใบบัวบกเป็นพืชล้มลุกขนาดเล็ก ลำต้นเป็นไหลทอดเลื้อยไปตามดินที่ชื้นแฉะ ปลูกขึ้นง่าย มีรากฝอยออกตามข้อ ใบมีลักษณะคล้ายกับใบบัว เป็นใบเดี่ยว ขนาดกว้างและยาวประมาณ 2 – 5 เซนติเมตร ปลายใบกลม โคนใบเว้า ขอบใบหยัก แผ่นใบสีเขียวมีขนเล็กน้อย ก้านใบยาว ออกดอกเป็นช่อแบบซี่ร่มตามซอกใบ มีดอกย่อย 2 - 3 ดอก กลีบดอกมี 5 กลีบ สีม่วงอมแดงกลับกัน ผลแห้งแตกแบน เมล็ดมีสีดำ
หลายคนรู้จักใบบัวบกเพียงแค่สรรพคุณแก้ชําใน แก้กระหาย แต่ความจริงๆ แล้ว ใบบัวบกมีสรรพคุณมากมายกว่านั้น ทั้งคุณค่าทางอาหารซึ่งเหมาะกับน้องๆ ที่อยู่ในวัยเรียน เพราะประกอบไปด้วยวิตามินเอที่สูงมาก นอกจากนั้นคือวิตามินบี 1 และแคลเซียม จึง...
* ช่วยบำรุงสายตา ทำให้ผิวสวย และช่วยให้อวัยวะต่างๆ ทำงานเป็นปกติ
* ช่วยผ่อนคลายความเครียด บำรุงสมอง ทำให้มีสมาธิมากขึ้น จึงจดจำสิ่งที่คุณครูสอนได้ดี
* ช่วยทำให้ร่างกายเจริญเติบโต และเสริมสร้างกล้ามเนื้อให้แข็งแรง
นอกจากนี้ ใบบัวบกยังมีสรรพคุณทางยาด้วย ได้แก่
* ใบสด ประมาณ 20 – 30 ใบ ล้างให้สะอาด ตำแล้วนำมาพอกแผลสดช่วยห้ามเลือดและรักษาแผลให้หายเร็ว
* ต้นสดทั้งต้น ใช้ราว 2 – 3 ต้น นำมาล้างให้สะอาด ตำให้ละเอียด แล้วนำมาพอกแผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก จะช่วยลดอาการปวดแสบปวดร้อน
* ต้นสดทั้งต้น ไม่จำกัดปริมาณ นำมารับประทานสดหรือคั้นเป็นน้ำ ติดต่อกัน 2 - 3 วัน ใช้เป็นยาแก้ปวดศีรษะข้างเดียว
* ต้นสดทั้งต้น ประมาณ 1 กำมือ คั้นเป็นน้ำผสมน้ำตาลเล็กน้อย ดื่มวันละครั้ง ติดต่อกัน 5 - 6 วัน ใช้เป็นยาแก้ช้ำในซึ่งเกิดจากการพลัดตก หกล้ม
* ต้นสดทั้งต้น ประมาณ 10 – 20 กรัม หรือ 1 กำมือ คั้นเป็นน้ำผสมกับน้ำส้มสายชู 1 – 3 ช้อนโต๊ะ จิบบ่อยๆ ใช้เป็นยาแก้เจ็บคอ
* ต้นสดทั้งต้น ประมาณ 30 – 40 กรัม คั้นเป็นน้ำผสมน้ำตาลเล็กน้อย รับประทาน 5 - 7 วัน ใช้เป็นยาลดความดันโลหิตสูง
สำหรับหนูๆ ที่กลัวว่าใบบัวบกมีรสขม ลองเปลี่ยนมาชุบแป้งทอดทานกับน้ำจิ้มรสเด็ด หรือนำมาทำเป็นน้ำดื่มสมุนไพรก็จะได้ประโยชน์ไม่แพ้กัน ส่วนผสมกับวิธีทำก็ไม่ยาก ลองดูนะคะ
ส่วนผสม
1. บัวบกหั่นฝอย 2 ถ้วยตวง
2. น้ำต้มสุก 2 ถ้วยตวง
3. น้ำเชื่อม
วิธีทำ
1. นำใบและก้านลงโขลกให้ละเอียด
2. เติมน้ำต้มสุกคนให้เข้ากัน
3. กรองด้วยผ้าขาวบางเอาแต่น้ำ เวลาดื่มใส่น้ำเชื่อม และน้ำแข็งตามชอบ